เมนู

บุตรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่
ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระ-
สุคต บัดนี้เป็นกาลปรินิพพานแห่งข้าพระองค์ พระเจ้าข้า พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนทัพพะ เธอจงสำคัญเวลาอันควร ณ บัดนี้เถิด ลำดับ
นั้น ท่านพระทัพพมัลลบุตรลุกจากอาสนะ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า
กระทำประทักษิณแล้ว เหาะขึ้นไปสู่เวหาส นั่งขัดสมาธิเข้าสมาบัติมีเตโช-
ธาตุเป็นอารมณ์อยู่ในอากาศกลางหาว ออกจากสมาบัติแล้วปรินิพพาน
เมื่อท่านพระทัพพมัลลบุตรเหาะขึ้นสู่เวหาส นั่งขัดสมาธิเข้าสมาบัติมีเตโช-
ธาตุเป็นอารมณ์อยู่ในอากาศกลางหาว ออกจากสมาบัติแล้วปรินิพพาน
สรีระถูกไฟเผาไหม้อยู่ เถ้าไม่ปรากฏเลย เขม่าก็ไม่ปรากฏ เหมือนเนยใส
หรือน้ำมันที่ถูกไฟเผาไหม้อยู่ เถ้าไม่ปรากฏเลย เขม่าก็ไม่ปรากฏฉะนั้น.
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึงทรง
เปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า
รูปกายได้สลายแล้ว สัญญาดับแล้ว เวทนา
ทั้งปวงเป็นธรรมชาติเย็นแล้ว สังขารทั้งหลายสงบ
แล้ว วิญญาณถึงความตั้งอยู่ไม่ได้.

จบปฐมทัพพสูตรที่ 9

อรรถกถาปฐมทัพพสูตร



ปฐมทัพพสูตรที่ 9 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อายสฺมา ได้แก่ คำอันเป็นที่รัก. บทว่า ทพฺโพ ได้แก่